มะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง : รู้ก่อน ป้องกันได้ รักษาหายขาด
มะเร็ง เป็นภัยร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงมากมายในแต่ละปี การค้นพบมะเร็งระยะเริ่มต้น เพิ่มโอกาสรักษาหายขาดได้สูง การตรวจคัดกรองมะเร็ง เป็นวิธีการคัดกรองมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทราบได้ว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหรือไม่ แล้วมะเร็งอะไรบ้างที่พบบ่อยในผู้หญิง และป้องกันได้ด้วยวิธีใดบ้าง?
มะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง
- มะเร็งเต้านม: เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิง พบได้ประมาณ 1 ใน 8 คน มักพบในผู้หญิงวัย 35 ปีขึ้นไป
- มะเร็งปากมดลูก: เป็นมะเร็งที่พบบ่อยอันดับสองในผู้หญิง พบได้ประมาณ 1 ใน 5 คน มักพบในผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
- มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก: พบได้ประมาณ 1 ใน 20 คน มักพบในผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
- มะเร็งปอด: พบได้ประมาณ 1 ใน 10 คน มักพบในผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
- มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก: พบได้ประมาณ 1 ใน 35 คน มักพบในผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
การป้องกันมะเร็งในผู้หญิง
- การตรวจคัดกรองมะเร็ง: ผู้หญิงทุกคนควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งตามคำแนะนำของแพทย์
- มะเร็งเต้านม: ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจแมมโมแกรมทุกปี ผู้หญิงอายุ 20-39 ปี ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน และตรวจภายในทุกปี
- มะเร็งปากมดลูก: ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจแปปสเมียร์ทุก 3 ปี หรือตรวจ HPV ทุก 5 ปี
- มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก: ผู้หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ทุก 10 ปี หรือตรวจเลือดในอุจจาระทุกปี
- มะเร็งปอด: ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สูบบุหรี่ ควรตรวจเอกซเรย์ปอดทุกปี
- มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก: ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เคยเป็นมะเร็งรังไข่ ควรตรวจภายใน อัลตราซาวด์ หรือตรวจเลือด CA-125
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:
- งดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปอด และมะเร็งชนิดอื่นๆ
- ดื่มแอลกอฮอล์แต่พอดี: การดื่มแอลกอฮอล์มาก เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับ
- ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: ทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนให้เพียงพอ จำกัดอาหารแปรรูป อาหารหมักดอง และอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ: ภาวะอ้วน เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งหลายชนิด
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง
3. การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็ง:
ชนิดของวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 2 ชนิด คือ
- วัคซีนป้องกัน HPV 2 สายพันธุ์: ป้องกันมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และหูดหงอนไก่ ที่เกิดจาก HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 เหมาะสำหรับเด็กหญิงอายุ 9-12 ปี ผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ และผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูง
- วัคซีนป้องกัน HPV 9 สายพันธุ์: ป้องกันมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปาก และหูดหงอนไก่ ที่เกิดจาก HPV สายพันธุ์ 16, 18, 31, 33, 45, 52, 58 เหมาะสำหรับเด็กหญิงอายุ 9-12 ปี ผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูง และผู้ชายที่มีความเสี่ยงสูง
ประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และหูดหงอนไก่ ที่เกิดจาก HPV สายพันธุ์ที่รวมอยู่ในวัคซีนได้มากกว่า 90%
ผลข้างเคียงของวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
ผลข้างเคียงของวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมักไม่รุนแรง อาจพบได้ดังนี้
- อาการปวด บวม แดง หรือคัน บริเวณที่ฉีด
- ปวดศีรษะ
- ไข้
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อ่อนเพลีย
ข้อควรระวัง
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ไม่ควรรับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
- ผู้หญิงที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อต้นแขน จำนวน 2-3 เข็ม ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน เด็กหญิงอายุ 9-12 ปี ควรฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน ผู้หญิงอายุ 13 ปีขึ้นไป และผู้ชายที่มีความเสี่ยงสูง ควรฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 3 เข็ม เข็มแรก เข็มที่สองห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มที่สามห่างจากเข็มที่สอง 6 เดือน