ทำไมแสงแดด หรือ UV จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง

: 49

: 11-Dec-24


 

ทำไมแสงแดด หรือ UV จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง

แสงแดดเป็นสิ่งที่ทุกคนสัมผัสในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือแม้แต่การเดินทางไปทำงาน แต่รู้หรือไม่ว่าแสงแดด หรือที่เรียกกันว่า รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) นั้น อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรามีโอกาสเสี่ยงเป็น "มะเร็งผิวหนัง" ได้? เราจะมาทำความเข้าใจว่าแสงแดด และ UV ทำงานอย่างไรถึงสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ รวมทั้งวิธีป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

รังสี UV คืออะไร?

รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) คือรังสีที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ UVA, UVB และ UVC ซึ่งแต่ละประเภทมีผลกระทบที่แตกต่างกันต่อผิวหนังของเรา:

  • UVA: เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นยาวที่สุด สามารถทะลุทะลวงเข้าสู่ชั้นผิวหนังลึกที่สุด ทำให้เกิดการแก่ก่อนวัย (photoaging) และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังชนิดต่างๆ
  • UVB: รังสี UVB มีความยาวคลื่นสั้นกว่า UVA แต่มีพลังงานสูงกว่า ทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดการไหม้จากแดด (sunburn) และมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
  • UVC: เป็นรังสีที่มีพลังงานสูงที่สุด แต่โชคดีที่ส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดยชั้นบรรยากาศของโลก

การสัมผัสกับ UV ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อย่างไร?

รังสี UV ที่มาจากแสงแดดสามารถทำลาย DNA ในเซลล์ผิวหนังได้ เมื่อผิวหนังถูกแสงแดดหรือ UV เป็นเวลานาน เซลล์ผิวหนังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงและไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดความผิดปกติที่อาจนำไปสู่การเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์หรือ "มะเร็งผิวหนัง"

ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจาก UV

การสัมผัสแสงแดดหรือ UV มากเกินไปในช่วงเวลานานหรือบ่อยครั้งจะเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะในกรณีที่:

  1. การได้รับรังสี UV ในช่วงเวลาที่รุนแรงที่สุด: เช่น ช่วงเวลา 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น
  2. การใช้ชีวิตกลางแจ้งโดยไม่มีการป้องกันจากแดด: เช่น การเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยไม่ทาครีมกันแดด
  3. การได้รับการสัมผัสกับ UV ในระยะยาว: เช่น การมีอาชีพที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หรือการใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีแสงแดดแรง

วิธีป้องกันแสงแดดและ UV

เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังจากแสงแดดหรือ UV นั้น สิ่งที่เราควรทำคือ:

  1. ทาครีมกันแดด: ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง (อย่างน้อย SPF 30 ขึ้นไป) จะช่วยป้องกันการทำลายของ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการไหม้จากแดด
  2. หลีกเลี่ยงการตากแดดในช่วงที่แสงแดดแรงที่สุด: หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลา 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่แสงแดดแรงที่สุด
  3. สวมเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด: เสื้อผ้าที่มีเนื้อหนาและหมวกสามารถช่วยป้องกันรังสี UV จากการสัมผัสผิวหนังได้
  4. สวมแว่นกันแดด: เลือกแว่นกันแดดที่สามารถป้องกัน UVA และ UVB ได้ 100% เพื่อปกป้องดวงตาจากรังสีอันตราย

การสัมผัสกับแสงแดดและรังสี UV เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งผิวหนัง การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามวิธีป้องกันต่างๆ เช่น การทาครีมกันแดด การสวมเสื้อผ้าป้องกันแดด และการหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่รังสี UV สูง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยการดูแลตัวเองจากการสัมผัสแสงแดดอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวสุขภาพดีและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

 


ปรึกษาผลิตภัณฑ์ ยาเทียนเซียน
ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง

213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

โทร 02-264-2217 02-264-2218 02-264-2219

Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.

"