: 3
: 25-Apr-25
หลังการรักษาโรคมะเร็งด้วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยจำนวนมากพบว่าร่างกายของตนเองอ่อนแอ เหนื่อยง่าย ภูมิคุ้มกันลดลง เบื่ออาหาร และมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย แม้จะผ่านพ้นช่วงวิกฤตของโรคไปแล้ว แต่การฟื้นฟูสุขภาพกลับเป็นเรื่องท้าทายไม่แพ้กัน เพราะยาเคมีบำบัดไม่เพียงทำลายเซลล์มะเร็ง แต่ยังส่งผลกระทบต่อเซลล์ดีในร่างกายด้วย
เมื่อร่างกายอ่อนแอจากการรักษา การกลับไปใช้ชีวิตตามปกติจึงกลายเป็นภารกิจใหญ่ ผู้ป่วยจำนวนมากต้องเผชิญกับความรู้สึกหมดแรง จิตใจหดหู่ และบางครั้งก็รู้สึกสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นการฟื้นฟูสุขภาพอย่างไร การดูแลตัวเองในช่วงนี้จึงไม่ควรละเลย ไม่ใช่แค่การรักษาแผลจากการรักษาเท่านั้น แต่คือการเยียวยาระบบภายในของร่างกายให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม ซึ่งสมุนไพรจีนอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการแนวทางธรรมชาติและปลอดภัย
ในทางแพทย์แผนจีน สมุนไพรจีนไม่ได้มุ่งเน้นแค่การรักษาอาการเท่านั้น แต่เน้นการฟื้นฟูร่างกายทั้งระบบ โดยเฉพาะในภาวะหลังเคมีบำบัดที่ต้องการการบำรุงเลือด เสริมพลังชี่ (Qi) และปรับสมดุลภายใน บทความนี้จะพาผู้อ่านมาทำความเข้าใจว่า สมุนไพรจีนช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังเคมีบำบัดได้อย่างไร และสามารถใช้ร่วมกับการรักษาสมัยใหม่ได้หรือไม่
เคมีบำบัด (Chemotherapy) คือการใช้ยาที่มีฤทธิ์รุนแรงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่มีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหมายเพื่อควบคุมหรือกำจัดเนื้องอกที่แพร่กระจายไปในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ยาเคมีบำบัดไม่สามารถเลือกทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ มันจึงส่งผลกระทบต่อเซลล์ปกติที่มีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน เช่น เซลล์ในไขกระดูก เซลล์ในเยื่อบุทางเดินอาหาร และเซลล์รากผม เป็นต้น
ผลที่ตามมาคือผู้ป่วยจำนวนมากต้องเผชิญกับอาการข้างเคียงที่หลากหลาย ตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อยอย่างเบื่ออาหาร จนถึงปัญหาใหญ่ เช่น ระบบภูมิคุ้มกันล้มเหลวหรือติดเชื้อรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีผลต่อสภาพจิตใจ เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และนอนไม่หลับ ซึ่งล้วนส่งผลต่อการฟื้นตัวโดยรวมของร่างกาย
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย:
ภูมิคุ้มกันต่ำ เสี่ยงติดเชื้อง่าย
เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียเรื้อรัง
เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
คลื่นไส้ อาเจียน
ผมร่วง
โลหิตจาง
บางรายอาจประสบภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น การอักเสบของเยื่อบุปาก ลำไส้แปรปรวน ความผิดปกติของตับหรือไต และอาการชาบริเวณมือและเท้า ซึ่งล้วนเป็นอาการที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การรักษาด้วยเคมีบำบัดไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการดูแลสุขภาพ แต่คือจุดเริ่มต้นของกระบวนการฟื้นฟูที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญอย่างจริงจังด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ป่วยหลายคนเลือกหาวิธีเสริมการฟื้นฟูสุขภาพด้วยแนวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะการบำรุงจากภายใน ซึ่งสมุนไพรจีนมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
ศาสตร์แพทย์แผนจีนมีรากฐานมานับพันปี โดยเน้นการดูแลสุขภาพผ่านแนวคิดเรื่องสมดุลของร่างกายระหว่าง หยิน–หยาง, พลังชี่ (Qi) และการไหลเวียนของเลือด (Xue) ตามแนวเส้นลมปราณ (Meridian) ซึ่งแตกต่างจากการแพทย์แผนปัจจุบันที่มุ่งเน้นการรักษาที่จุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย แพทย์แผนจีนจะมองผู้ป่วยในมุมองค์รวม และวิเคราะห์อาการผ่านทั้งระบบพลังงานภายใน, อารมณ์, การย่อยอาหาร, การนอนหลับ, ปัสสาวะและอุจจาระ รวมไปถึงลักษณะลิ้นและชีพจร
หลังจากผู้ป่วยมะเร็งได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ร่างกายมักตกอยู่ในภาวะที่เรียกว่า “ชี่พร่อง” (Qi Deficiency), “เลือดพร่อง” (Blood Deficiency), หรือ “หยินพร่อง” (Yin Deficiency) อันเป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการอ่อนล้า ไม่กระปรี้กระเปร่า ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หายใจสั้น ใจสั่น หรือมีไข้ต่ำๆ ในเวลากลางคืน ซึ่งล้วนเป็นสัญญาณของระบบที่ไม่สมดุล
บำรุงชี่: เพื่อเสริมพลังชีวิต กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ฟื้นฟูอวัยวะที่อ่อนแอ เช่น ม้ามและปอด ซึ่งมีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารและควบคุมพลังงาน
บำรุงเลือด: เพื่อฟื้นฟูการสร้างเลือดใหม่ ลดอาการวิงเวียน โลหิตจาง และอาการเหนื่อยง่าย
บำรุงหยิน: ช่วยลดภาวะร้อนภายใน ร้อนในตอนกลางคืน ปากแห้ง คอแห้ง ซึ่งเกิดจากหยินพร่อง
ล้างพิษ: ขจัดสารพิษตกค้างจากเคมีบำบัด และฟื้นฟูการทำงานของตับและไต
แพทย์แผนจีนจะประเมินลักษณะเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละรายและเลือกตำรับสมุนไพรที่เหมาะสม เช่น บางรายอาจต้องการเสริมพลังมาก บางรายอาจต้องล้างพิษก่อน หรือบางรายอาจเน้นการบำรุงตับและไตซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการกำจัดสารพิษ
ที่สำคัญคือการรักษาแบบแพทย์แผนจีนไม่เน้นเร่งรัด แต่ให้ผลระยะยาวแบบต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงจากภายในอย่างยั่งยืน
ในตำรับยาจีน มีสมุนไพรหลายชนิดที่ได้รับการใช้อย่างแพร่หลายในการฟื้นฟูผู้ป่วยหลังเคมีบำบัด โดยมุ่งเน้นที่การบำรุงพลังชีวิต เสริมภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูอวัยวะภายใน สมุนไพรเหล่านี้มีการศึกษาในระดับสากลมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลี และญี่ปุ่น ที่นำมาประยุกต์ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน
1.หวงฉี
สรรพคุณ: เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงพลังชี่ ช่วยสร้างเม็ดเลือดขาว
บทบาท: กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวในไขกระดูก จึงช่วยลดภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัด
การใช้: สามารถต้มดื่ม หรือรับประทานในรูปแบบแคปซูลสกัด
2. โสม
สรรพคุณ: บำรุงพลังงาน เพิ่มความสดชื่น กระตุ้นสมอง
บทบาท: ลดความอ่อนล้าจากเคมีบำบัด เพิ่มสมรรถภาพร่างกาย ฟื้นฟูความจำ
การใช้: ชงชากับน้ำร้อน หรือสกัดเป็นแคปซูล
3. ตังกุย
สรรพคุณ: บำรุงเลือด กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง
บทบาท: ช่วยลดภาวะโลหิตจางหลังเคมีบำบัด โดยเฉพาะในผู้หญิง
การใช้: มักอยู่ในตำรับที่ใช้คู่กับหวงฉี เพื่อบำรุงชี่และเลือดพร้อมกัน
4. ตังถั่งเช่า
สรรพคุณ: บำรุงปอด ไต เพิ่มพลังงาน เพิ่มความทนทาน
บทบาท: ใช้ในการฟื้นฟูระบบทางเดินหายใจและไตที่อาจได้รับผลกระทบจากยา
การใช้: ในรูปแบบผงแห้ง ผสมน้ำอุ่น หรือรับประทานแบบแคปซูล
5. หลิงจือ
สรรพคุณ: ต้านมะเร็ง บำรุงตับ ขับสารพิษ
บทบาท: ช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักระหว่างการขจัดยาเคมีออกจากร่างกาย
การใช้: ต้มน้ำดื่ม หรือผสมในตำรับเสริมภูมิคุ้มกัน
เทียนเซียน (Tianxian Liquid) เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรจีนที่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการแนวทางเสริมเพื่อฟื้นฟูร่างกายหลังเคมีบำบัด ตำรับนี้เป็นการผสมผสานสมุนไพรจีนหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงอวัยวะภายใน และช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
หวงฉี (Astragalus) – เสริมภูมิคุ้มกัน
หลิงจือ (Reishi Mushroom) – ต้านอนุมูลอิสระ, ป้องกันตับ
ตังกุย (Angelica) – บำรุงเลือด
โสม (Ginseng) – เสริมพลังชี่
โฮ่วปู (Magnolia bark) – บำรุงระบบย่อย
สมุนไพรเสริมฤทธิ์อื่น ๆ เช่น Atractylodes, Codonopsis
ผลิตภัณฑ์นี้ถูกสกัดออกมาในรูปแบบ "ยาน้ำเข้มข้น" เพื่อให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็ว และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และในผู้ป่วยชาวต่างชาติที่แสวงหาทางเลือกจากสมุนไพรธรรมชาติ
มีผู้ป่วยหลายรายที่รายงานว่า หลังการใช้เทียนเซียนควบคู่กับการพักฟื้นหลังเคมีบำบัด พวกเขารู้สึกฟื้นตัวไวขึ้น เหนื่อยล้าลดลง ระบบขับถ่ายดีขึ้น และบางรายมีค่าเลือดที่กลับมาอยู่ในระดับดีเร็วขึ้น ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล และต้องใช้อย่างต่อเนื่องควบคู่กับโภชนาการที่เหมาะสม
ควรรับประทานในช่วงเช้า – ก่อนอาหาร เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดี
ปริมาณการใช้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์แผนจีนหรือผู้เชี่ยวชาญ
หลีกเลี่ยงการทานพร้อมยาที่มีผลกับตับหรือไต
แม้เคมีบำบัดจะเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่สำคัญในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่ผลข้างเคียงจากการรักษาก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจอย่างมาก ทำให้การฟื้นฟูร่างกายหลังการรักษากลายเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากระบวนการรักษาเอง
สมุนไพรจีนไม่ใช่ “ยารักษาโรค” โดยตรง แต่มีบทบาทในฐานะตัวช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ปรับสมดุลภายใน เสริมพลังชีวิต และช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวจากผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้ภายใต้การแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ และควบคู่ไปกับการพักผ่อน อาหารที่มีประโยชน์ และกำลังใจที่ดี
ยาน้ำเทียนเซียน คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่รวมสมุนไพรจีนหลายชนิดที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงตับ ฟื้นฟูระบบเลือด และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น แม้จะไม่ใช่ยาวิเศษ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้ป่วยจำนวนมากยอมรับและใช้ในการดูแลตัวเอง
ท้ายที่สุดแล้ว การฟื้นฟูร่างกายหลังเคมีบำบัด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงแค่การใช้ยา หรืออาหารเสริมเท่านั้น แต่ต้องอาศัยทั้ง “กาย ใจ และความเข้าใจ” ในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้กับร่างกายอย่างแท้จริง
สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง ยาน้ำเทียนเซียน ประกอบไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด อย่าง ถั่งเช่า ไป๋ฮวาสือสือเฉ่า และหวงฉี ช่วยฟื้นฟูร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลภายใน อีกทั้งบรรเทาผลข้างเคียงจากคืโมในผู้ป่วยมะเร็งระยะพักฟื้นด้วย
ยาน้ำเทียนเซียน ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถันจากสถาบันวิจัยยาฉางไป๋ซาน และได้มาตรฐาน GMP สนใจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ LINE: @tianxian
กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทร 02-264-2217 02-264-2218 02-264-2219
Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.