ประสบการณ์จริง
คุณ กาญจนา
ฉันผ่านการต่อสู้มะเร็งลำไส้ใหญ่ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อกุมภาพันธ์ 2551 กับมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ 2 ได้ผ่าตัดและเคมีบำบัดจนครบ พอมิถุนายน 2552 มะเร็งก็เกิดขึ้นอีกและลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองเข้าสู่ระยะ 3 ต้องผ่าตัดรอบ 2 รวมถึงเคมีบำบัด การที่มะเร็งเกิดซ้ำในรอบ 1 ปี หมายถึงมะเร็งไม่เคยหมดไปจากเรา มันแฝงตัวหลบซ่อนอยู่ ฉันจึงต้องดูแลร่างกายมากขึ้น ต่อมาได้รู้จักสมุนไพรจึงเริ่มใช้ไปด้วยระหว่างรักษา จนทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
คุณ กาญจนี
ฉันเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อปี 2555 แม้คุณแม่จะเคยเป็นมาก่อนแต่พอเกิดกับตัวเองก็ตกใจและสิ้นหวัง ฉันยอมรับและรักษาทันที ยังได้ใช้สมุนไพรดูแลควบคู่กันไป นอกจากรักษาตามหลักการแพทย์ การดูแลจิตใจให้พร้อมก็สำคัญยิ่ง คนในครอบครัวช่วยได้มาก ทำให้มีกำลังใจไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
คุณ กิ่งฉัฐม์
เมื่อปี 2555 ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมลามไปต่อมน้ำเหลือง หมอวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะ 3 ติดฮอร์โมนและเฮอร์ทู ฉันไม่ตกใจมากอะไรจะเกิดก็ไม่เป็นไร คิดว่าใช้ชีวิตมาขนาดนี้ก็คุ้มค่าแล้ว ฉันติดสินใจผ่าตัด เคมีบำบัด ฉายแสง ผลข้างเคียงการรักษาที่มีมากจึงมีคนรู้จักแนะนำให้ใช้สมุนไพร ในที่สุดฉันก็ผ่านพ้นมันมาได้
คุณ นฤทัย
ขณะนั้นฉันมีอายุเพียง 17 ปี พบเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะ 2 ทุกคนในบ้านยิ้มและบอกเพียงว่า “ ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวก็หาย" การรักษาหลักคือเคมีบำบัด คนที่มาเยี่ยมนำสิ่งบำรุงต่างๆ มาให้มากมายรวมทั้งสมุนไพร ให้ใช้ควบคู่ไปกับการรักษา หลังเคมีบำบัดก็ต่อด้วยฉายแสง ทุกอย่างผ่านไปอย่างช้าๆ และในที่สุดมะเร็งหายไปหมดแล้ว
คุณ ประทุม
ฉันเป็นมะเร็งปากมดลูก ระยะ 2 เมื่อถึงวัยใกล้เกษียณ ฉันกลัวว่าร่างกายจะทนทานรับการรักษาไม่ไหว แต่ก็ต้องตั้งสติทำใจอย่างสุดความสามารถ ผลข้างเคียงจาก ฉายแสง ฝังแร่ เคมีบำบัด ทำเอาฉันแทบทนไม่ได้ จึงใช้สมุนไพรไปด้วย คนที่พบเห็นฉันมักจะพูดว่า ดูไม่เหมือนคนป่วยเลย หน้าตาสดชื่นแจ่มใส ผ่านไปประมาณ 4 เดือน ของการรักษา ความผิดปกตินั้นได้หายไปแล้ว
คุณ วรรณา
คุณแม่ฉันถูกตรวจพบเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่ออายุ 77 พวกเราลูกๆ พยายามตั้งสติ ตัดสินใจให้แม่เข้ารับการผ่าตัด และไม่ได้บอกความจริงกับแม่เกรงว่าจะเสียกำลังใจ หมอแนะนำให้คีโมแบบรับประทานต่อ แต่ช่วงนั้นแม่อ่อนแอมาก พวกเราคิดว่าแม่จะไม่ไหวจึงตัดสินใจใช้ทางเลือกสมุนไพรควบคู่ไปด้วย พวกเราพี่น้องช่วยกันดูแลคุณแม่อย่างอบอุ่น ทำให้ท่านมีกำลังใจและกลับมาแข็งแรง
คุณ วีรพงษ์
ผมเป็นตับอักเสบตอนอายุ 31 ผ่านไป 28 ปี เมื่อ ปี.2552 เป็นมะเร็งตับ ครั้งแรกรักษาด้วย RFA 6 เดือนต่อมา มะเร็งก็กลับมาโตอีก คราวนี้ทำ TOCE ก้อนยุบหายไประยะหนึ่ง ช่วงนั้นรักษาแบบบูรณาการใช้สมุนไพรด้วย ค่าการทำงานของตับดีขึ้น แต่ปี 2554 มะเร็งโตอีกครั้ง หมอแนะนำการปลูกถ่ายตับ ระหว่างรอคิวก็ใช้สมุนไพรดูแลสุขภาพ จนในที่สุดการเปลี่ยนตับเรียบร้อย หลายปีมานี้ผมสุขภาพดี ยังคงดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรต่อไป
คุณ สุรีย์
เมื่อปี 2543 ฉันเป็นมะเร็งเต้านมระยะ 3B (ระยะ 3 เข้าระยะ 4) มะเร็งลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว ก้อนใหญ่มากต้องคีโมก่อน ค่อยผ่าตัด ช่วงนั้นหลานชายที่เป็นหมอนำสมุนไพรมาให้รับประทานไปด้วย หลังจบคีโมก็ผ่าตัด และฉายแสง จนกลับมาแข็งแรงปกติ ขอให้ผู้เป็นมะเร็งทุกคนอย่าหมดกำลังใจ เรายังมีทางเลือกเสมอ
